ที่พักริมทาง (Rest Area) ถือเป็นองค์ประกอบของทางหลวง ตามพระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 (และที่แก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 3[1] โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นจุดแวะพักสำหรับผู้ใช้เส้นทางเพื่ออำนวยความปลอดภัยในการเดินทางโดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ที่จอดรถ ศาลาพักผ่อน ห้องน้ำ ร้านอาหาร ร้านขายของ สถานีบริการน้ำมัน และการบริการอื่น ๆ เป็นต้น รวมถึงเป็นสถานที่เพื่อผ่อนคลายอิริยาบถจากการเดินทาง การทำธุระส่วนตัว รวมถึงการใช้บริการสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สามารถช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุจากความเหนื่อยล้าหรือหลับในและช่วยรักษาสมาธิในการขับขี่ของผู้ใช้ทาง เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุและลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุทางถนน ตลอดจนช่วยให้ผู้ใช้ทางประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางเข้าและออกจากระบบทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองโดยไม่จำเป็น รวมถึงสามารถดึงดูดให้มีผู้ใช้ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองมากขึ้น นอกจากนี้ ที่พักริมทางยังมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมระบบโครงข่ายคมนาคมของประเทศไทยให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล รวมถึงส่งเสริมภาคเศรษฐกิจต่าง ๆ ในพื้นที่ข้างเคียงโดยรอบที่ตั้งที่พักริมทางให้เกิดการพัฒนา เติบโต ทั้งในด้านการจ้างงาน การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม การบริการ และการพัฒนาสังคม
เพื่อพัฒนาที่พักริมทางบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองให้เป็นไปตามมาตรฐาน กรมทางหลวงจึงได้จัดทำข้อกำหนดกรมทางหลวง เรื่อง มาตรฐานและลักษณะที่พักริมทางในเขตทางหลวงพิเศษและทางหลวงสัมปทาน พ.ศ. 2560 ซึ่งกำหนดให้ที่พักริมทางมีองค์ประกอบของสิ่งปลูกสร้างและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องจัดให้มี โดยจำแนกที่พักริมทางในเขตทางหลวงพิเศษและทางหลวงสัมปทานแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามขนาดของพื้นที่ รวมถึงการจัดให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อให้บริการแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ได้แก่ (1) ศูนย์บริการทางหลวง (Service Center) ที่พักริมทางหลวงขนาดใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่ขึ้นไป โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการครบทุกประเภท จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นจุดแวะพักหลักสำหรับผู้ใช้ทาง (2) สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) ที่พักริมทางหลวงขนาดกลาง มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ขึ้นไป โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอย่างเพียงพอต่อการใช้งาน จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นจุดแวะพักหลักสำหรับผู้ใช้ทาง และ (3) จุดพักรถ (Rest Stop) ที่พักริมทางหลวงขนาดเล็ก มีเนื้อที่ประมาณ 5 ไร่ขึ้นไป โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการอย่างเพียงพอต่อการใช้งาน จัดให้มีขึ้นเพื่อเป็นจุดแวะพักเพิ่มเติมสำหรับผู้ใช้ทาง หรือสำหรับผู้ใช้ทางบางประเภทเป็นการเฉพาะ เช่น จุดพักสำหรับผู้ขับขี่รถบรรทุก
ที่พักริมทาง (Rest Area) บนโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ที่พักริมทางที่เปิดให้บริการแล้ว ปัจจุบันมีจำนวน 4 แห่ง และที่พักริมทางที่จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในอนาคตอีก 14 แห่ง ดังต่อไปนี้

ที่พักริมทาง (Rest Area) บนโครงข่ายทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง
ชื่อที่พักริมทาง ประเภท ตำแหน่ง (กม.)
ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 สายกรุงเทพฯ – บ้านฉาง (จำนวน 1 แห่ง)
ที่พักริมทางที่เปิดให้บริการแล้ว
(1) ทับช้าง จุดพักรถ (Rest Stop) กม.48+280
ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 7 สายกรุงเทพฯ – บ้านฉาง (จำนวน 6 แห่ง)
ที่พักริมทางที่เปิดให้บริการแล้ว
(1) ลาดกระบัง จุดพักรถ (Rest Stop) กม.21+700
(2) บางปะกง สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) กม.49+300
(3) หนองรี จุดพักรถ (Rest Stop) กม.72+500
ที่พักริมทางที่จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต
(1) ศรีราชา ศูนย์บริการทางหลวง (Service Center) กม.93+750
(2) มาบประชัน จุดพักรถ (Rest Stop) กม.119+200
(3) บางละมุง สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) กม.137+100
ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 6 สายบางปะอิน - นครราชสีมา (จำนวน 8 แห่ง)
ที่พักริมทางที่จะเปิดให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต
(1) วังน้อย จุดพักรถ (Rest Stop) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.3+350
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.5+550
(2) หนองแค จุดพักรถ (Rest Stop) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.26+250
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.26+000
(3) สระบุรี สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.56+250
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.54+400
(4) ทับกวาง จุดพักรถ (Rest Stop) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.65+600
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.64+900
(5) ปากช่อง ศูนย์บริการทางหลวง (Service Center) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.108+757
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.107+525
(6) ลำตะคอง จุดพักรถ (Rest Stop) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.122+000
(7) สีคิ้ว สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.147+000
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.147+600
(8) ขามทะเลสอ จุดพักรถ (Rest Stop) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.173+000
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.173+000
ทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 81 สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (จำนวน 3 แห่ง)
ที่พักริมทางที่เปิดให้บริการเพิ่มเติมในอนาคต
(1) นครชัยศรี สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.19+500
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.19+500
(2) นครปฐม สถานที่บริการทางหลวง (Service Area) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.47+500
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.47+500
(3) ท่ามะกา จุดพักรถ (Rest Stop) (ขาเข้ากรุงเทพฯ)
กม.70+900
(ขาออกกรุงเทพฯ)
กม.70+900


[1] พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. 2535 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2549 มาตรา 3 ระบุว่า“ทางหลวง” หมายความว่า ทางหรือถนนซึ่งจัดไว้เพื่อประโยชน์ในการจราจรสาธารณะทางบก ไม่ว่าในระดับพื้นดิน ใต้หรือเหนือพื้นดิน หรือใต้หรือเหนืออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่น นอกจากทางรถไฟและหมายความรวมถึงที่ดิน พืช พันธุ์ไม้ทุกชนิด สะพาน ท่อหรือรางระบายน้ำ อุโมงค์ ร่องน้ำ กำแพงกันดิน เขื่อน รั้ว หลักสำรวจ หลักเขต หลักระยะป้ายจราจร เครื่องหมายจราจร เครื่องหมายสัญญาณ เครื่องสัญญาณไฟฟ้า เครื่องแสดงสัญญาณที่จอดรถ ที่พักคนโดยสาร ที่พักริมทาง เรือ หรือพาหนะสำหรับขนส่งข้ามฟาก ท่าเรือสำหรับขึ้นหรือลงรถ และอาคารหรือสิ่งอื่นอันเป็นอุปกรณ์งานทางบรรดาที่มีอยู่หรือที่ได้จัดไว้ในเขตทางหลวง เพื่อประโยชน์แก่งานทางหรือผู้ใช้ทางหลวงนั้นด้วย